คุณภาพการนอนในวัยเด็กควรเป็นอย่างไร
คุณภาพการนอน เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ ความคิด และอารมณ์ของเด็ก ซึ่งปัญหาการนอนที่พบ ได้แก่ ไม่ยอมเข้านอน นอนดึก ตื่นกลางดึก และนอนละเมอ โดยพื้นฐานการเสริมสร้างสุขนิสัยการนอนที่ดี สามารถเริ่มได้จากการฝึกปรับพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นผู้ปกครองจึงจำเป็นต้องส่งเสริมคุณภาพการนอนที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการนอนในเด็ก
1. ตัวเด็ก เด็กอาจมีความรู้สึกไม่สบายตัวจากอาการทางร่างกาย เช่น ปวดท้อง ปวดหัว เป็นไข้
2. สิ่งแวดล้อมในสถานที่ที่เด็กนอน อาจมีเสียงดังรบกวน แสงสว่างจ้า และมีของเล่นในห้องนอน
เด็กควรนอนวันละกี่ชั่วโมง (รวมชั่วโมงนอนกลางวัน)
· วัยทารก -1 ปี ควรนอน 12-15 ชั่วโมงต่อวัน ให้เริ่มฝึกนอนตอนกลางคืนให้นานขึ้น ลดจำนวนมื้อการกินนมตอนกลางคืนลง
· 1-2 ปี ควรนอน 11-14 ชั่วโมงต่อวัน
· 3-5 ปี ควรนอน 10-13 ชั่วโมงต่อวัน
แนวทางการส่งเสริมสุขนิสัยการนอนที่ดี มีอะไรบ้าง
1. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาเฟอีน เช่น ชาเขียว ช็อกโกแลต หรือการกินจนอิ่มมากเกินไปในช่วงเย็น เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้เด็กหลับยากขึ้น
2. จัดตารางกิจกรรมให้เป็นเวลาสม่ำเสมอ โดยให้ลูกเข้านอนและตื่นนอนตรงเวลา
3. สร้างกิจวัตรประจำวันก่อนนอนด้วยกิจกรรมที่ให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย เช่น อ่านนิทาน ร้องเพลงกล่อมนอน
4. ควรจัดส่วนของเล่นแยกกับห้องนอน เพื่อสร้างการเตรียมความพร้อมสู่การนอนหลับพักผ่อน สามารถช่วยลดปัญหาไม่ยอมนอน การปฏิเสธเพราะห่วงเล่น
5. สิ่งแวดล้อมในห้องควรเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน และควรปิดไฟมืดสนิทเมื่อถึงเวลาเข้านอน
หากเด็กมีการคุณภาพการนอนที่ไม่ดี อาจส่งผลให้เกิดปัญหาด้านพฤติกรรมและอารมณ์ตามมา เช่น ซน อยู่ไม่นิ่ง หงุดหงิดง่าย ก้าวร้าว เป็นต้น ดังนั้นการฝึกให้เด็กเข้านอนและตื่นเป็นเวลาจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ให้สมวัยยิ่งขึ้น