ผลการรักษาด้วย TMS ในเด็กออทิสติก
ผลการรักษาด้วย TMS ในเด็กออทิสติก
ในปัจจุบันมีงานวิจัยที่ศึกษาผลการรักษาด้วย TMS ในเด็กออทิสติกอย่างแพร่หลาย จากงานวิจัยของ Ali และคณะ พบว่าการรักษาด้วย TMS ทำให้อาการของเด็กออทิสติกดีขึ้น ทั้งด้านพฤติกรรมซ้ำ การเข้าสังคม และสติปัญญาขั้นสูง และตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา นพ.ปัณณวิชญ์ วงศ์วิวัฒนานนท์ ได้มีประสบการณ์การดูแลและให้การรักษาด้วย TMS ในเด็กออทิสติก มากกว่า 900 คน พบว่าการรักษาด้วย TMS ร่วมกับการฝึกพัฒนาการด้านอื่น ๆ ช่วยทำให้อาการหลักของเด็กออทิสติกดีขึ้นและช่วยส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งอาการหลักทั้ง 3 ด้านของออทิสติก ได้แก่
- ด้านภาษา : ไม่ส่งเสียง ไม่เล่นเสียง ไม่พูดคำที่มีความหมาย พูดภาษาการ์ตูน ใช้ท่าทางเพื่อแสดงความต้องการแทนการพูด
- ด้านการเข้าสังคม : มีปัญหาปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น ไม่มองหน้าสบตา ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก แยกตัวอยู่คนเดียว ไม่เล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกัน ไม่เข้าใจการสื่อสารทางสายตา สีหน้า และท่าทาง
- ด้านพฤติกรรมจำกัด : มีพฤติกรรมซ้ำ ๆ (กระตุ้นตัวเอง) เช่น กระโดด สะบัดมือ เล่นมือ หมุนตัว เดินเขย่ง โยกตัว ชอบเรียงวัตถุต่อกัน กินอาหารแบบเดิม
โดยการตอบสนองและผลการรักษาในแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป แต่สามารถแบ่งผลการรักษาด้วย TMS ได้เป็น 3 กลุ่ม คือ
ดีมาก (25%) : เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ เช่น บอกความต้องการได้ชัดเจน พูดเป็นประโยค เล่าเรื่องสั้น ๆ และตอบคำถามแบบ 5W1H ได้แก่ ใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ทำไม (บางกลุ่มยังคงมาทำรักษาต่อเนื่อง บางกลุ่มขอหยุดการรักษาเนื่องจากผู้ปกครองพึงพอใจในผลลัพธ์และต้องการให้เด็กเข้าโรงเรียนเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้และการเข้าสังคม)
ดี, ปานกลาง (50%) : เห็นการเปลี่ยนแปลงมากหรือปานกลาง เด็กมีพัฒนาการหลายอย่างหรือบางอย่างที่ดีขึ้น เช่น สบตามากขึ้น เข้าใจและทำตามคำสั่งได้ดีขึ้น สนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เริ่มพูดคำที่มีความหมาย (ยังคงมาทำการรักษาต่อเนื่องในระยะยาวเพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเดิม)
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง (25%) : เห็นการเปลี่ยนแปลงน้อย เด็กมีพัฒนาการเท่าเดิมหรือดีขึ้นเล็กน้อย (หยุดการรักษาไปแล้ว โดยมีปัจจัยหลัก คือ ไม่สามารถมาทำการรักษาอย่างต่อเนื่องได้ ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และ ไม่ได้ฝึกพัฒนาการอื่น ๆ ร่วมด้วย)
ซึ่งจะเห็นได้ว่า การกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (TMS) มีผลลัพธ์ในการรักษาเป็นไปในทิศทางที่ค่อนข้างดี เห็นการเปลี่ยนแปลงในระดับปานกลาง ดี และดีมาก มากถึง 75% แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุด คือควรทำการรักษาอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการฝึกพัฒนาการไปด้วย เช่น กิจกรรมบำบัด อรรถบำบัด การปรับพฤติกรรม เพื่อช่วยส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
อ้างอิง :
Khaleghi, A., Zarafshan, H., Vand, S. R., & Mohammadi, M. R. (2020). Effects of Non-invasive Neurostimulation on Autism Spectrum Disorder: A Systematic Review. Clinical psychopharmacology and neuroscience : the official scientific journal of the Korean College of Neuropsychopharmacology, 18(4), 527552. https://doi.org/10.9758/cpn.2020.18.4.527