การรักษาในกลุ่มเด็กออทิสติกมีอะไรบ้าง?
อัพเดทล่าสุด: 15 ต.ค. 2024
261 ผู้เข้าชม
การรักษาในกลุ่มเด็กออทิสติก
ข้อมูลจาก Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ระบุว่าปัจจุบันการรักษาโรคออทิสติกมีหลายประเภทและการรักษาบางอย่างอาจมีมากกว่าหนึ่งวิธี โดยทั่วไปสามารถแบ่งประเภทของการรักษาได้ดังนี้
- Behavioral (การบำบัดทางพฤติกรรม)
- Developmental (การบำบัดทางพัฒนาการ)
- Educational (การบำบัดทางการเรียนรู้)
- Social-relational (การบำบัดทางสังคม)
- Pharmacological (การบำบัดด้วยยา)
- Psychological (การบำบัดทางจิตวิทยา)
- Complementary and alternative (การบำบัดทางเลือกอื่น ๆ)
Behavioral (การบำบัดทางพฤติกรรม)
เป็นการมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนและหลังพฤติกรรมนั้น ซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้วิธีการ Applied behavior analysis (ABA) ส่งเสริมพฤติกรรมที่ต้องการและยับยั้งพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เพื่อให้เกิดทักษะการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม มีวิธีการสอน 2 รูปแบบ คือ
- Discrete trial training (DTT) : การแบ่งพฤติกรรมออกเป็นหลายส่วน ให้คำแนะนำหรือสอนการแสดงออกทางพฤติกรรมในแบบที่ต้องการทีละขั้นตอน ถ้าเด็กมีการตอบสนองและมีพฤติกรรมที่เหมาะสมหรือตามที่ต้องการ เด็กก็จะได้รับรางวัล แต่ถ้าหากเด็กมีการตอบสนองและมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เด็กจะถูกเพิกเฉย (Ignore)
- Pivotal response training (PRT) : การค้นหาว่าพฤติกรรมหนึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอื่นอย่างไร และทำการแก้ไขทักษะพื้นฐานของพฤติกรรมนั้นก่อนเพื่อให้เด็กพัฒนาทักษะอื่น ๆ ต่อไปได้ เช่น เด็กขาดทักษะพื้นฐานในการเริ่มต้นบทสนทนาจึงทำให้เด็กไม่สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้
Developmental (การบำบัดทางพัฒนาการ)
เป็นการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะเฉพาะ เช่น ทักษะด้านการพูด ทักษะด้านร่างกาย ซึ่งการบำบัดที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มเด็กออทิสติก ได้แก่ การฝึกอรรถบำบัด (Speech and language therapy) ช่วยส่งเสริมให้เด็กมีความเข้าใจด้านภาษาและมีพัฒนาการทางภาษาที่สมวัย เนื่องจากเด็กออทิสติกบางคนไม่สามารถสื่อสารด้วยคำพูดได้ จึงต้องใช้สัญลักษณ์ รูปภาพ ท่าทาง หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวช่วยในการสื่อสาร การฝึกกิจกรรมบำบัด (Occupational therapy) จะช่วยส่งเสริมให้เด็กสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง และยังมีการบูรณาการประสาทความรู้สึก (Sensory integration therapy) เพื่อช่วยปรับปรุงการตอบสนองของระบบประสาทความรู้สึกที่มากหรือน้อยเกินไป นอกจากนั้นยังมีการฝึกกายภาพบำบัด (Physical therapy) ที่ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว การทรงตัว ด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนื้อมัดเล็กสมวัย
Educational (การบำบัดทางการเรียนรู้)
เป็นการมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงการเรียนรู้ในห้องเรียน โดยห้องเรียนส่วนใหญ่จะใช้แนวทางการศึกษาแบบ Treatment and Education of Autistic and Related Communication-Handicapped Children (TEACCH) เน้นการสอนที่มีระบบและขั้นตอนในการเรียนรู้ชัดเจน มีการจัดสภาพแวดล้อมของห้องเรียนที่เหมาะสม ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ด้วยการมองเห็นผ่านรูปภาพ สอนให้เด็กสื่อสารโดยใช้รูปภาพหรือสัญลักษณ์เพื่อช่วยให้เด็กสามารถเข้าถึงศักยภาพสูงสุดของตนเองได้
Social-relational (การบำบัดทางสังคม)
เป็นการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะทางสังคมและสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัวโดยใช้วิธีการ Developmental, Individual Differences, Relationship-Based (DIR หรือ Floor Time) ซึ่งครอบครัวจะต้องใช้เวลาหรือทำกิจกรรมร่วมกับเด็กเพื่อกระตุ้นพัฒนาการและส่งเสริมความสัมพันธ์โดยอาศัยสิ่งที่เด็กสนใจและตรงกับระดับพัฒนาการ
Pharmacological (การบำบัดด้วยยา)
สิ่งสำคัญที่ต้องรู้เกี่ยวกับการบำบัดด้วยยา คือ ปัจจุบันยังไม่มียาที่ใช้รักษาอาการหลักของโรคออทิสติก แต่มียาบางชนิดสามารถใช้รักษาอาการร่วมที่เกิดขึ้นได้ เช่น Risperidone สำหรับกลุ่มที่มีปัญหาการนอน, Aripiprazole สำหรับกลุ่มที่มีอารมณ์รุนแรงหรือมีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง และ Methylphenidate สำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาธิ อยู่ไม่นิ่ง เป็นต้น
Psychological (การบำบัดทางจิตวิทยา)
เป็นการมุ่งเน้นไปที่การรับมือกับความวิตกกังวล อาการซึมเศร้า และปัญหาทางสุขภาพจิตด้วยวิธีการ Cognitive-behavior therapy (CBT) ส่งเสริมการเรียนรู้ความเชื่อมโยงระหว่างความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม ใช้การพูดคุยเพื่อให้เด็กเข้าใจถึงความคิดหรือความเชื่อของตนเองที่อาจจะบิดเบือนไปจากความจริง และนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในที่สุด
Complementary and alternative (การบำบัดทางเลือกอื่น ๆ)
การบำบัดเสริมและการบำบัดทางเลือกอื่น ๆ ได้แก่ การรับประทานอาหารเสริม, การบำบัดด้วยสัตว์, ศิลปะบำบัด รวมไปถึงการกระตุ้นศีรษะด้วยคลื่นแม่เหล็ก (Transcranial Magnetic Stimulation)
อ้างอิง
Hyman, S. L., Levy, S. E., Myers, S. M., & COUNCIL ON CHILDREN WITH DISABILITIES, SECTION ON DEVELOPMENTAL AND BEHAVIORAL PEDIATRICS (2020). Identification, Evaluation, and Management of Children With Autism Spectrum Disorder. Pediatrics, 145(1), e20193447.
บทความที่เกี่ยวข้อง
อย่างที่เราทราบกันแล้วว่า Neurofeedback เป็นการปรับการทำงานของสมอง โดยการนำวิธีการสะท้อนกลับของคลื่นสมองมาเป็นตัวช่วยในการปรับคลื่นสมอง โดยวัดคลื่นสมองแบบ Real-time แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้มาแสดงให้เห็นผ่านทางภาพ วิดีโอ หรือเสียง
เมื่อถึงวัยที่เด็กเริ่มจับดินสอขีดเขียนแล้ว ผู้ปกครองหลายคนคงเจอปัญหาว่าทำไมเด็ก ๆ ถึงเขียนตัวอักษรกลับด้าน สับสนในการเขียนพยัญชนะม้วนหัวเข้าหรือออกบางตัว ฝึกเขียนซ้ำหลายครั้งแล้วก็ยังเขียนกลับด้านเหมือนเดิม
ปัญหาที่เรามักจะพบได้บ่อยในเด็กวัยเริ่มเขียน คือ เด็กจับดินสอไม่ถูกต้อง จับดินสอไม่เป็น ส่งผลให้เด็กไม่มั่นใจและไม่ให้ความร่วมมือในการเขียน